NVIDIA เปิดชิปกราฟิกตระกูล GeForce RTX พร้อมกัน 3 รายการ ได้แก่ GeForce RTX 2080 Ti, GeForce RTX 2080, และ GeForce RTX 2070 ทั้งใช้คอร์ Turing แบบเดียวกับ Quadro RTX ที่เปิดตัวไปสัปดาห์ที่แล้ว
Turing คือสถาปัตยกรรมจีพียูรุ่นใหม่จากค่าย NVIDIA ที่ต่อจากยุคของ Pascal (GeForce 10)
NVIDIA ระบุว่า Turing เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การเปิดตัว CUDA core ในปี 2006 โดยมันใช้หน่วยประมวลผล 2 แบบทำงานร่วมกัน คือ RT Cores สำหรับประมวลผลกราฟิกแบบ ray tracing และ Tensor Cores สำหรับประมวลผล AI
Ray tracing เป็นเทคนิคของวงการกราฟิก ที่เรนเดอร์ภาพตามเส้นทางวิ่งของลำแสง และจำลองเอฟเฟคต์ที่เกิดขึ้นจากการกระทบของแสงต่อวัตถุนั้นจริงๆ (เหมือนกับภาพที่เราเห็นในโลกจริง) เทคนิคนี้ทำให้ได้ภาพที่สมจริงมาก แต่ก็เปลืองพลังในการประมวลผลมากเช่นกัน
NVIDIA ระบุว่า Turing เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การเปิดตัว CUDA core ในปี 2006 โดยมันใช้หน่วยประมวลผล 2 แบบทำงานร่วมกัน คือ RT Cores สำหรับประมวลผลกราฟิกแบบ ray tracing และ Tensor Cores สำหรับประมวลผล AI
Ray tracing เป็นเทคนิคของวงการกราฟิก ที่เรนเดอร์ภาพตามเส้นทางวิ่งของลำแสง และจำลองเอฟเฟคต์ที่เกิดขึ้นจากการกระทบของแสงต่อวัตถุนั้นจริงๆ (เหมือนกับภาพที่เราเห็นในโลกจริง) เทคนิคนี้ทำให้ได้ภาพที่สมจริงมาก แต่ก็เปลืองพลังในการประมวลผลมากเช่นกัน
- RT Cores ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเร่งการประมวลผล ray tracing โดยรองรับสูงสุดที่ 10 GigaRays (1 หมื่นล้านลำแสง) ต่อวินาที
- Tensor Cores มีใช้ตั้งแต่ยุค Volta ออกแบบมาสำหรับงาน deep learning สามารถรันงานได้ที่ 500 trillion tensor operations ต่อวินาที สามารถประยุกต์ใช้กับงานสายกราฟิกได้ เช่น ทำ anti-aliasing ด้วย deep learning
NVIDIA เรียกการประมวลผลด้วยคอร์ทั้งสองแบบว่า Hybrid Rendering โดยใช้แบรนด์ NVIDIA RTX ทำตลาด
นอกจาก RT Cores และ Tensor Cores แล้ว Turing ยังมีฟีเจอร์ใหม่อีกตัวคือ Turing Streaming Multiprocessorเป็นเอนจินการประมวลผลแบบขนานตัวใหม่ ที่แยกการประมวลผลจำนวนเต็ม (integer) และทศนิยม (floating point) จากกัน มีระบบแคชร่วมกันที่ขนาดใหญ่ขึ้นสองเท่า ทางบริษัทระบุว่าตัวเอนจินใหม่สามารถรัน 1.6 ล้านล้านคำสั่งทศนิยม และ 16 ล้านล้านคำสั่งจำนวนเต็มได้พร้อมกัน (บน CUDA จำนวน 4,608 คอร์) ผลคือสามารถรันงานกราฟิกแบบ raster หรืองาน simulation ได้เร็วกว่าเดิม
นอกจาก RT Cores และ Tensor Cores แล้ว Turing ยังมีฟีเจอร์ใหม่อีกตัวคือ Turing Streaming Multiprocessorเป็นเอนจินการประมวลผลแบบขนานตัวใหม่ ที่แยกการประมวลผลจำนวนเต็ม (integer) และทศนิยม (floating point) จากกัน มีระบบแคชร่วมกันที่ขนาดใหญ่ขึ้นสองเท่า ทางบริษัทระบุว่าตัวเอนจินใหม่สามารถรัน 1.6 ล้านล้านคำสั่งทศนิยม และ 16 ล้านล้านคำสั่งจำนวนเต็มได้พร้อมกัน (บน CUDA จำนวน 4,608 คอร์) ผลคือสามารถรันงานกราฟิกแบบ raster หรืองาน simulation ได้เร็วกว่าเดิม
ความเปลี่ยนแปลงของชิป GeForce RTX ได้แก่
- RT Cores สำหรับการเรนเดอร์แบบ ray tracing
- Turing Tensor Cores เร่งความเร็วการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์
- รองรับเฟรมเวิร์ค NGX สำหรับการใช้ปัญญาประดิษฐ์มาเพิ่มคุณภาพกราฟิก
- รองรับแรม GDDR6
- รองรับการต่อจอภาพและแว่น VR ด้วยพอร์ต USB-C
การ์ดรุ่น GeForce RTX 2080 Ti Founders Edition พร้อมแรม 11GB เริ่มรับคำสั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว ราคาอยู่ที่ 1,199 ดอลลาร์ (สมัย GTX 1080 Ti ราคาอยู่ที่ 699 ดอลลาร์) สำหรับการ์ดจากผู้ผลิตอื่นเริ่มที่ 999 ดอลลาร์
ส่วนรุ่น GeForce RTX 2080 รองรับแรม 8GB รุ่น Founder อยู่ที่ 799 ดอลลาร์ ผู้ผลิตอื่นเริ่มที่ 699 ดอลลาร์ เริ่มวางขาย 20 กันยายนนี้
และรุ่น GeForce RTX 2070 รองรับแรม 8GB รุ่น Founder อยู่ที่ 599 ดอลลาร์ ผู้ผลิตอื่นเริ่มที่ 499 ดอลลาร์ เริ่มวางขายเดือนตุลาคม
วิเคราะห์ : เนื่องจาก GPU รุ่นใหม่นี้มีราคาที่สูงมาก แต่คุณภาพก็สูงมากเช่นกัน โดยได้เริ่มใช้สถาปัตยกรรมใหม่ Turing ที่เปิดตัวพร้อมกับ Quadro RTX และยังมี Ray tracing ที่จะทำให้การประมวลผลแสงสมจริงที่สุด
No comments:
Post a Comment