YouTube บนเดสก์ทอปรองรับการดูวิดีโอสัดส่วนต่างๆ ไม่มีแถบดำขนาบข้างกวนใจ

     ก่อนหน้านี้ YouTube อัพเดตฟีเจอร์ดูวิดีโอแนวตั้งแบบเต็มจอบนมือถือแอนดรอยด์ไปแล้ว ล่าสุดเวอร์ชั่นเดสก์ทอปมีปรับปรุงด้วย คือสามารถรองรับการดูวิดีโอในสัดส่วนต่างๆ เช่นถ้าวิดีโอทำมาในสัดส่วน 4:3 เวอร์ชั่นใหม่ก็จะดูได้เต็มๆ แบบไม่มีแถบดำขนาบข้าง (ดูรูปภาพประกอบ)

การถ่ายวิดีโอในแนวตั้งก็เป็นที่นิยมมาก แต่เมื่อมาลง YouTube จะเห็นเป็นแถบดำขนาดใหญ่อยู่ทั้งซ้ายขวา เวอร์ชั่นใหม่นี้จะไม่มีแถบดำ กลายเป็นสีขาว (แต่ของเดิมอาจเหมาะสำหรับคนตั้งโหมดกลางคืนตลอดเวลามากกว่า)

เก่า

ใหม่

ที่มา: Blognone

วิเคราะห์ข่าว: วีดีโอที่แสดงผลในยูทูปจะแสดงสัดส่วนจริงๆของวีดีโอ ทำให้ไม่มีขอบดำมากวนใจ

Windows 10 อัพเดตถัดไปจะรองรับ leap second และ Precision Time Protocol

     Microsoft ได้ออกประกาศล่าสุดในเรื่องการปรับปรุงความแม่นยำของเวลาบนระบบ Windows ทั้ง Windows 10 และ Windows Server 2019 โดยมีจุดสำคัญคือรองรับ Precision Time Protocol, leap seconds และอื่น ๆ โดยเตรียมอัพเดตให้ระบบปฏิบัติการในการอัพเดตใหญ่ครั้งหน้าซึ่งคาดว่าจะออกในเดือนตุลาคมนี้

แม้ว่าแท้จริงแล้วมนุษย์จะมีเวลา 24 ชั่วโมงต่อหนึ่งวันบนโลก แต่หากวัดที่การหมุนของโลกรอบตัวเองจริง ๆ เวลามักจะช้าหรือเร็วกว่า 24 ชั่วโมงเล็กน้อย ดังนั้นอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน จึงต้องใส่วินาทีเพิ่มหรือลด 1 วินาทีในวันที่ 30 มิถุนายนหรือ 31 ธันวาคมเรียกว่าอธิกวินาทีหรือ leap second เพื่อชดเชยเวลาที่ไม่ตรงเป๊ะ โดยการใส่อธิกวินาทีครั้งล่าสุดนั้นคือวันที่ 31 ธันวาคม 2016 (ข้อมูลเพิ่มเติมศึกษาจาก Wikipedia)

การใส่ระบบอธิกวินาทีเข้ามาใน Windows นี้ก็เพื่อให้นาฬิกาของระบบตรงกับเวลาที่โลกหมุนจริง ๆ มากยิ่งขึ้น โดย Microsoft ระบุว่ารองรับอธิกวินาทีทั้งลดและเพิ่มแม้ว่าในอดีตการใส่อธิกวินาทีจะยังไม่เคยลดเลยก็ตาม

ถัดไปคือการใส่ Precision Time Protocol (PTP) เข้ามาเพิ่มเติมจาก Network Time Protocol (NTP) ที่ถูกใช้ซิงค์เวลามาอย่างยาวนาน โดย PTP มีจุดสำคัญคือมีการวัด latency ของ network hop ทั้งหมดที่เดินทางจากแหล่งข้อมูลนาฬิกามาจนถึงจุดหมาย จึงทำให้ได้เวลาที่แม่นยำขึ้น แต่ PTP จะเป็นเพียงตัวเลือกให้ผู้ที่ต้องการใช้เวลาความแม่นยำสูงเท่านั้น ในขณะที่ระบบซิงค์เวลาหลักของ Windows ยังคงใช้ NTP เหมือนเดิม

นอกจากนี้ Windows Server 2019 จะใส่ฟีเจอร์ additional logging สำหรับตรวจสอบการกระทำจาก Windows Time Service ด้วย โดย log ที่สามารถดูได้ เช่น time server ที่เลือก, ความถี่ในการซิงค์, การซิงค์ครั้งสุดท้ายเมื่อไรและผลลัพธ์เป็นอย่างไร เป็นต้น

ที่มา:  Blggnone  Microsoft TechNet Blog , Ars Technica , MSPoweruser

ที่มาภาพ: Microsoft TechNet Blog (1) (2)

วิเคราะห์ข่าว: ทำให้เราทราบเวลาได้แม่นยำมากขึ้น ทั้ง leap second ที่จะเพิ่ม-ลดเวลาเพื่อชดเชยเวลาที่เกิน 24 ชม. และ PTP ที่จะเพิ่มความแม่นยำของนาฬิกาได้อีก

สหราชอาณาจักรเริ่มทดสอบใช้อุปกรณ์ตรวจจับการใช้งานมือถือในขณะที่รถวิ่ง

     สหราชอาณาจักรเริ่มทดสอบใช้อุปกรณ์ตรวจจับการใช้งานมือถือขณะที่รถวิ่ง โดยอุปกรณ์นี้จะถูกติดตั้งไว้ข้างถนนและคอยตรวจจับสัญญาณมือถือจากรถที่วิ่งผ่านมัน

อุปกรณ์ที่ว่านี้พัฒนาโดยบริษัท Wescotec ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอุปกรณ์เซ็นเซอร์และป้ายสัญญาณเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน มันมีเซ็นเซอร์ตรวจจับสัญญาณมือถือของรถที่วิ่งผ่านมัน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ 2G, 3G หรือ 4G หากมันพบว่ามีการใช้งานมือถืออยู่ ไม่ว่าจะเพื่อการสนทนา, การส่งข้อความ หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในจังหวะที่ผ่านเซ็นเซอร์ ระบบป้ายสัญญาณไฟ LED จะแสดงเครื่องหมายเพื่อเตือนคนขับรถว่างดใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ

     อุปกรณ์ตรวจจับดังกล่าวสามารถรับรู้ได้ว่าการใช้มือถือขณะขับรถนั้นมีการใช้อุปกรณ์ช่วยสนทนา ผ่านการเชื่อมต่อบลูทูธ หรือไม่ หากพบว่ามีการต่อหูฟังหรือลำโพงผ่านทางบลูทูธ ระบบตรวจจับของ Wescotect จะไม่แสดงเครื่องหมายเตือนการงดใช้มือถือ

อย่างไรก็ตามมันยังไม่อาจระบุได้แน่ชัดว่าการใช้มือถือนั้นเป็นการใช้งานโดยคนขับรถเอง หรือเป็นการใช้งานของผู้โดยสารในรถ ดังนั้นอุปกรณ์ตรวจจับการใช้มือถือขณะขับรถนี้จึงยังใช้เพื่อการแสดงป้ายสัญญาณเตือนเพียงอย่างเดียวในตอนนี้ โดยยังไม่นำไปใช้ประกอบการตรวจจับเพื่อระบุความผิดเกี่ยวกับกฎหมายจราจร แต่ทาง Wescotec ก็ตั้งใจจะพัฒนาระบบเพิ่มเติมให้สามารถใช้เพื่องานบังคับใช้กฎหมายได้ในอนาคต

ทั้งนี้ Wescotec บอกว่าตอนนี้มีคำสั่งซื้ออุปกรณ์ระบบตรวจจับการใช้มือถือพร้อมป้ายเตือนที่เพิ่งได้รับการพัฒนานี้มาจากเบลเยียม, ฟินแลนด์, ลิทัวเนีย, นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกาแล้ว

ที่มา: Blognone , Wired , Wescotec

วิเคราะห์ข่าว: อุปกรณ์นี้สามารถตรวจจับได้ว่าเราใช้โทรศัพท์อยู่หรือไม่ แต่ก็ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าโทรศัพท์นั้นเป็นของผู้โดยสารหรือคนขับ จึงไม่มีการนำไปใช้ระบุความผิดในทางกฏหมาย

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Go หน้าจอ 10" ราคา 399 เหรียญ พร้อมเปิดจองในไทยเร็วๆ นี้

วันนี้ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Go ฮาร์ดแวร์ซีรีส์ล่าสุด เป็น Surface ที่เบาและบางที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากลงภาพ Surface พร้อมเงาคำใบ้

Surface Go มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส PixelSense ขนาด 10 นิ้ว ความละเอียดภาพสูง 216 PPI รองรับปากกา Surface Pen แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 9 ชั่วโมง น้ำหนักเบาเพียง 521 กรัม บาง 8.3 มม. ขาตั้งรุ่นใหม่กางได้สูงสุด 165 องศาสำหรับวาดภาพในโหมดสตูดิโอ รวมถึงมีพอร์ต USB-C 3.1 สำหรับถ่ายโอนข้อมูลและชาร์จ 1 ช่อง พอร์ตแจ็คหูฟัง และช่องอ่านการ์ด MicroSD

ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 Home (S mode) ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Pentium Gold มีที่เก็บข้อมูล SSD ให้เลือกจุสูงสุด 256GB หน่วยความจำสูงสุด 8GB กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล (รองรับการลงชื่อเข้าใช้ด้วยใบหน้า Windows Hello)

ราคาเริ่มต้นที่ 399 เหรียญ (ประมาณ 14,000 บาท) เปิดจองรอบแรกวันนี้ในสหรัฐอเมริกาและอีก 20 ประเทศ รอบถัดไปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า มีประเทศไทยด้วย

ที่มา: Blognone และ Windows Blogs

วิเคราะห์ข่าว: Surface Go รุ่นนี้ราคาเปิดตัวอยู่ราคาที่ประมาณ 14,000 บาท ซึ่งถ้าเทียบกับพวก Pro Surface Go ตัวนี้จะมีราคาต่ำกว่ามาก ก็ถือว่าเป็นทางเลือกให้กับคนงบน้อยแต่อยากได้ Tablet ตระกูล Surface แต่พวก Type Cover, Mouse, Pen ไม่มีแถมมาให้(ต้องซื้อแยก)

Facebook พบบั๊กใหม่ เปลี่ยนค่าจากถูก Block เป็นไม่ถูก Block กระทบผู้ใช้ 8 แสนคน

     Facebook ประกาศว่าได้พบบั๊กในระบบ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนค่าผู้ใช้บางคนที่ถูกบล็อกอยู่ให้กลายเป็นไม่ถูกบล็อก โดยบั๊กนี้พบในช่วงระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 5 มิถุนายน กระทบกับผู้ใช้งานราว 8 แสนคน ซึ่ง Facebook บอกว่าได้เริ่มแจ้งผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบนี้แล้ว

     ลักษณะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น Facebook บอกว่า แม้จะถูกปลดบล็อกไป แต่คน ๆ นั้น ก็ยังไม่เห็นโพสต์ในระดับแชร์เฉพาะเพื่อน จะเห็นที่ระดับเพื่อนของเพื่อน (ซึ่งปกติต้องไม่เห็น) และ Facebook กล่าวขอโทษกับบั๊กดังกล่าว โดยยอมรับว่าการบล็อกนั้นเป็นเรื่องสำคัญของผู้ใช้งาน

     Facebook บอกว่า 83% ของผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ จะมีเพียงคนเดียวในลิสท์ที่บล็อกอยู่แล้วถูกแก้ค่าเป็นปลดบล็อก ซึ่งชี้ว่าปัญหาเกิดขึ้นจำกัด ทั้งนี้ Facebook ได้แก้ไขปัญหาโดยคนถูกปลดบล็อกก็กลับมาถูกบล็อกคืนแล้ว

ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเช็กรายชื่อคนที่บล็อกอยู่ได้ในหน้า Settings

ที่มา: Blognone | Facebook Newsroom

วิเคราะห์ข่าว: บั๊กตัวนี้ทำผู้ใช้ได้รับผลกระทบโดยคนที่เราเคยบล็อกถูกทำให้กลายเป็นไม่บล็อก มองว่าการบล็อกเป็นสิ่งสำคัญของผู้ใช้งาน